………ผ้าขนหนูเหมือนขนหนูตรงไหนกันนะ “ผ้าขนหนู” ไม่ใช่ผ้าของหนูหรอกนะ อย่าเข้าใจผิดกันล่ะ “ผ้าขนหนู” นี้มีคนไทยเท่านั้นที่เรียกกัน แล้วสงสัยไหมว่าทำไมต้องเรียก “ผ้าขนหนู” ก็ลักษณะของผ้านั้นมีขน นุ่ม ฟู สีสันสวยงาม เหมือนขนมชนิดหนึ่งของประเทศไทย ที่เรียกว่า “ขนมขี้หนู” นั้นเอง คนไทยสามัญชนหรือชาวบ้านทั่วไปเรียก “ขนมขี้หนู” แต่ชาววังนั้นจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า “ขนมหนู” “ขนมทราย” “ขนมละอองฟ้า” ซึ่งมีสีสันสวยงาม นุ่ม ฟู น่ากิน นั้นเอง

………เวลาต่อมาเริ่มมีการนำเข้าผ้าเช็ดตัวเข้ามาใช้กันในประเทศไทย และนิยมใช้ผ้าเช็ดตัวกันหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อเช็ดตามร่างกาย คนไทยสมัยนั้นสังเกตว่าผ้าเช็ดตัวแบบนี้ลักษณะมีขนนุ่ม ฟู เหมือนขนมขี้หนู จึงเรียกผ้าเช็ดตัวว่า “ผ้าขนมหนู” เพื่อให้ดูจำง่ายขึ้น และมีการเพี้ยนคำจึงกลายเป็นคำว่า “ผ้าขนหนู” กันจนถึงปัจจุบัน

ผ้าขนหนูทอมาจากเส้นใยหลัก ๆ 2 ชนิดดังนี้

• ข้อดี : ดูดซับน้ำได้ดี ทนทานต่อการใช้งาน เนื้อสัมผัสนุ่มฟู ขนหลุดร่วงได้ยาก
• ข้อเสีย : ถ้าซักแล้วไม่แห้งดีอาจะทำให้มีกลิ่นอับได้ ทำให้เกิดเชื้อราได้

• ข้อดี : ดูดซับน้ำได้ดี ทนทานต่อการใช้งาน เนื้อสัมผัสนุ่มฟู เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสีสันให้เลือกเยอะ ดูแลรักษาง่าย แห้งไว ไม่ก่อให้เกิดเชื้อราหรือแบคทีเรีย  น้ำหนักเบา
• ข้อเสีย : การถักมีหลายเกรด ถ้าถักบางจะทำให้ขนหลุดร่วงง่าย และซับน้ำไม่ได้ดี

………ดังนั้นความนุ่มของ “ผ้าขนหนู” จะขึ้นอยู่กับการทอตามชนิดของเส้นด้าย จะมีตั้งแต่ผ้าขนหนูธรรมดาที่มีเนื้อหยาบมักใช้เป็น “ผ้าขนหนูโรงแรม” “เสื้อคลุมอาบน้ำ” จนถึง “ผ้าขนหนูนาโน” ที่มีความนุ่ม ละมุน น่าสัมผัส มักจะใช้เป็นผ้าขนหนูทั่วไป ผ้าขนหนูเช็ดผม พรมเช็ดเท้า และใช้เป็นผ้าขนหนูอเนกประสงค์ ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ แต่อย่าลืมนะว่าผ้าขนหนูที่ดี ต้องใช้แล้วไม่มีขนหลุดร่วง หรือขนติดตามตัวหลังจากใช้งาน

ผ้าขนหนูแบ่งออกเป็นหลายไซส์ตามความเหมาะสมของการใช้งาน

1. 1. ผ้าขนหนูขนาดใหญ่สุด (Bath Sheet) จะมีขนาดอยู่ที่ 30 x 60 inch และ 40 x 70 inch
      เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่ที่มีลำตัวใหญ่ เพื่อใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ มักจะใช้เป็น ”ผ้าขนหนูโรงแรม” หรือบางโรงแรมจะมี ”เสื้อคลุมอาบน้ำ” ด้วยเพื่อรองรับลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ
   2. ผ้าขนหนูทั่วไป (Bath Towel) จะมีขนาดอยู่ที่ 28 x 56 inch
      เหมาะสำหรับ ผู้ใช้งานทั่วไป อาจจะมีการแบ่งขนาดตามวัยของผู้ใช้งาน เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ เป็นต้น มักจะใช้ตามครัวเรือน หรือบ้านทั่วไป ผ้าขนหนูที่ใช้กันตามบ้านจะมีขนาดเล็กกว่า ผ้าขนหนูโรงแรม และมีบ้างที่เป็นผ้าขนหนูแฟชั่น จะมีขนนุ่มมาก จะเรียกกันว่า “ผ้าขนหนูนาโน”
   3. ผ้าขนหนูเช็ดผม (Hair Towel) จะมีขนาดอยู่ที่ 20 x 35 inch
      เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ทั่วไป ผู้หญิงนิยมใช้กันมากหลังจากสระผมเสร็จ เพื่อป้องกันน้ำหยดระหว่างแต่งหน้า หรือแต่งตัว และยังทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นด้วย
   4. ผ้าขนหนูที่นำมาทำพรมเช็ดเท้า (Bath Mat) จะมีขนาดอยู่ที่ 20 x 31 inch
      เหมาะสำหรับ ใช้งามตามข้างอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำ หรือ ห้องครัว เพื่อเช็ดน้ำหรือสิ่งสกปรกจากเท้าของผู้ใช้งาน ส่วนใหญ่เนื้อผ้าจะเป็น “ผ้าขนหนูนาโน” เพื่อความนุ่มและน่าสัมผัสต่อการใช้งาน
   5. ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดมือ (Hand Towel) จะมีขนาดอยู่ที่ 16 x 28 inch
      เหมาะสำหรับ ใช้งานทั่วไปเพื่อเช็ดทำความสะอาดมือ
   6. ผ้าขนหนูอเนกประสงค์ (Wash Cloth) จะมีขนาดอยู่ที่ 13 x 13 inch
      เหมาะสำหรับ ใช้งานทั่วไป เช่น เช็ดโต๊ะ เช็ดรถ เช็ดของใช้ เป็นต้น

ผ้าขนหนูจะแบ่งการทอเป็น 2 ชนิด ดังนี้

1. ผ้าขนหนูด้ายเดี่ยว
   • เป็นการทอด้ายเพียงเส้นเดียว
   • เนื้อสัมผัสนุ่ม
   • เนื้อผ้ามีความบาง
   • ซักแล้วแห้งไว
   • นิยมใช้เป็น “ผ้าขนหนู” “ผ้าขนหนูนาโน” ตามครัวเรือนหรือบ้านทั่วไป
2.  ผ้าขนหนูด้ายคู่
   • เป็นการทอด้วยเส้นด้าย 2 เส้นและทอให้เป็นเส้นเดียวกัน
   • เนื้อสัมผัสนุ่มน้อยกว่า
   • เนื้อผ้ามีความหนา
   • มีความคงทนของเส้นด้าย
   • ถ้าซักแล้วไม่แห้งดีจะมีกลิ่นเหม็นอับ
   • ราคาแพงกว่า
   • นิยมใช้เป็น “ผ้าขนหนูโรงแรม” “เสื้อคลุมอาบน้ำ” และ “พรมเช็ดเท้า”

………ในหลายๆครั้งที่เรามักเกิดข้อสงสัยว่า “ผ้าฟลีซ” กับ “ผ้าสำลี” ต่างกันอย่างไร ในเรื่องของเนื้ออผ้า คุณสมบัติระยะเวลาการใช้งาน เพราะว่าผ้าทั้ง 2 แบบค่อนข้างคล้ายกันไปหมด เวลาที่จะเลือกซื้อในแต่ละครั้งเราจึงมักเข้าใจว่า ผ้าฟลีซและผ้าสำลีคือผ้าชนิดเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ “ผ้าฟลีซ” ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

………ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 100% มีลักษณะผ้าที่เนื้อแน่นละเอียดให้ความอบอุ่นและสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยม เอามาผลิตเสื้อกันหนาว เสื้อผ้าแฟชั่นและต่างๆ เพราะมีสีสันที่ให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ทุกอายุ ทุกสถานที่ตามที่ผู้บริโภคต้องการ

………ผลิตจากเส้นใยฝ้าย Cotton มีลักษณะผ้าที่เป็นฉนวนให้ความอบอุ่น ระบายความร้อนได้ดี แต่เนื้อผ้าไม่ทน ยุ่ยง่ายเป็นการใช้งานระยะสั้นไม่เหมาะกับการใช้งานระยะยาวยิ่งใช้งานผ่านการซักผ้าจะขึ้นขนและแข็งไม่น่าใช้งาน

………ดังนั้นพอรู้ถึงความแตกต่างของเนื้อผ้าทัั้ง 2 ชนิดแล้วผู้บริโภคก็จะให้ความสนใจกับ “ผ้าฟลีซ” มากกว่า ด้วยลักษณะการใช้งาน ความคงทน การที่ผู้บริโภคในสมัยใหม่จะทำการซื้อสินค้าสักอย่าง ต้องผ่านการคิดมาอย่างดีว่าเหมาะสมกับการใช้งานกับค่าใช้จ่าย สามารถใช้ได้ในระยะยาวได้ด้วย

1.ผ้าสเวตเตอร์ฟลีซ
2.ผ้าโพล่าฟลีซ
3.ผ้าบูเคล่
4.ผ้าเวลลัว
5.ผ้าเวลฟลีซ

………เนื้อผ้าหนานุ่มกำลังดีมีความทนทานช่วยมอบความอบอุ่นได้ดีได้รับความนิยมอย่างมากในการทำเป็นชุดกีฬาและเสื้อผ้าต่างๆ และยังสามารถทำเป็นผ้าบุซับในเสื้อผ้าและผ้าห่มได้อีกด้วย เหมาะกับงานการ์เม้นท์ เสื้อแขนยาว เสื้อนอก เสื้อคลุม เนื้อผ้านุ่มน่าสัมผัส

………เนื้อผ้ามีความนุ่มพิเศษ น้ำหนักเบา ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ดูแลทำความสะอาดง่าย และแห้งไว นิยมในการนำมาทำเป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ เช่น เสื้อเเจ็คเก็ต เสื้อกันหนาว หมวก กางเกงขายาว เสื้อฮู้ด หรือแม้แต่ผ้าห่มเนื้อนุ่ม

………มีเนื้อผ้าด้านนึ่งที่เส้นด้ายม้วนขดในขณะที่อีกด้านจะขูดขน ให้สัมผัสนุ่ม ทำให้มีหน้าตาที่แตกต่างจากโพล่าฟลีซ เหมาะกับการทำเสื้อคลุม เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อแขนยาวเเฟชั่น กระโปรง เสื้อโค้ท แจ็คเก็ต แฟชั่นชุดสูท และชุดอื่นๆ ผ้ามีพื้นผิว ปุ่มปม แต่นุ่มนวลในการสัมผัสให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี

………เป็นผ้าถักที่ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ชนิดพิเศษที่มีลักษณะคล้ายกับผ้ากำมะหยี่ แต่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า ลักษณะของเนื้อผ้าจะมีความนุ่มและมีผิวเรียบ เหมาะสำหรับทำเป็นผ้าม่าน เบาะ ผ้าบุเก้าอี้ โซฟา และเสื้อผ้าเด็ก เช่น ชุดเดรส เกางเกง เสื้อฮู้ด ตุ๊กตา และผ้าห่ม เป็นต้น

………ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ถักให้มีลักษณะเป็นขน เพื่อเลียนแบบขนสัตว์โดยมักมีความยาวของขนประมาณ 0.3-0.5 มิลลิเมตร เนื้อผ้าจะมีความเรียบลื่น และให้สัมผัสที่นุ่มคล้ายกับขนสัตว์แท้ เหมาะกับการนำมาทำเป็นผ้าห่มเด็ก หมอนรองคอ หมอนอิง ของตกแต่งภายในบ้าน และเครื่องแต่งกายต่างๆ เช่น กางเกงเลคกิ้ง เป็นต้น

………ผ้าฟลีซสามารถนำไปผลิตทำอะไรได้บ้าง ลองมาชมกันค่ะ เพื่อว่าจะเป็นไอเดียในการผลิตหรือซื้อของได้ง่ายมากขึ้น

………เห็นแบบนี้แล้ว “ผ้าฟลีซ” สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายมากกว่าที่ทุกท่านคิดใช่ไหมคะ การเลือกผ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการใช้ชีวิตดังนั้น “ผ้าฟลีซ” จึงเหมาะที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการตัดสินใจซื้อ เพราะในเรื่องของคุณภาพที่อ่อนโยนต่อผิว เนื้อผ้าอบอุ่น การใช้งานในระยะยาวที่ดี ไม่ขึ้นขนง่าย พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อีกด้วย

ทางเราเป็นตลาดผ้าฟลีซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

หากสนใจ “ผ้าฟลีซ” สามารถคลิ๊กดูสินค้าเพิ่มเติมได้ >>ที่นี่<<

ยินดีให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง